วัสดุปูพื้นประเภทไม้และวิธีการปูพื้นบ้านด้วยไม้
พื้นของบ้านถือวัสดุส่วนหนึ่งที่ทำให้บ้านน่าอยู่ สำหรับบางคนก็ชอบพื้นบ้านเป็นแบบไม้ ในท้องตลาดปัจจุบันวัสดุที่ใช้ในการปูพื้นมีอยู่มากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป การจะตัดสินใจเลือกใช้ก็ควรคำนึงถึงความต้องการและประโยชน์ในการใช้สอยภายในบ้านของเรา วัสดุปูพื้นไม้เป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อาทิเช่น
1.ไม้ (Solid Wood) หรือไม้จริงทั้งแผ่น เป็นวัสดุพื้นฐานที่ใครๆก็นึกเอามาทำงานปูพื้น เพราะไม้ให้ความรู้สึกที่ดูอบอุ่น และดูมีราคา ไม้ส่วนมากที่นำมาใช้เป็นไม้เนื้อแข็ง จำพวกไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้จากต่างประเทศ หรือไม้เนื้ออ่อนอย่างไม้สัก ซึ่งให้ลวดลายสวยงาม ราคาพื้นไม้นี้จะแพง แต่ให้ความรู้สึกดีมาก ให้ผิวสัมผัสที่ดี คงทน แต่เนื่องจากในปัจจุบันไม้ เป็นวัสดุที่หายาก มีราคาแพง จึงมีการใช้วัสดุอื่นมาทดแทนไม้แผ่น เช่น ปาร์เก้ ลามิเนต เป็นต้น ในการใช้พื้นไม้จะต้องระวังเรื่องความชื้น ถ้าเปียกต้องรีบเช็ดและระวังรอยขีดข่วนอาจเกิดขึ้นง่าย นอกจากนี้อาจมีปัญหาเรื่องการยืดหดตัวด้วย ปัจจุบันการปูพื้นจะปูทับลงไปบนพื้นคอนกรีตเลย ทำให้ไม่มีเสียงดังเวลาเดิน
2.ไม้ปาร์เก้ คือชิ้นไม้เล็ก ๆที่ทำมาจากไม้จริงนั่นเอง แต่มีขนาดเล็กกว่าไม้พื้นชนิดแผ่นมาก จึงมีราคาถูกกว่า เพราะสามารถใช้เศษไม้ที่เหลือจากการทำไม้แผ่น มีทั้งแบบเข้าลิ้นรอบ และไม่เข้าลิ้น สามารถเลือกรูปแบบลวดลายในการปูได้ สิ่งที่ต้องระวังในการปูก็คือคอนกรีตจะต้องแห้งสนิท พร้อมทำกันซึมไว้ด้วย กาวจะต้องดี ปูปาเก้แล้วต้องทิ้งไว้นาน ๆ เพื่อให้กาวแห้งก่อนขัดพื้น และต้องไม่อัดแผ่นปาเก้แน่นเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจโก่งงอระเบิดได้เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง วิธีการปูพื้นไม้ปาร์เกต์ ให้ใช้วิธีเทปูนทรายปรับระดับ ทำผิวขัดมัน แล้วจึงดำเนินการปูพื้นไม้ด้วยการโพลูรีเทน
3.ไม้ลามิเนต เป็นวัสดุปูพื้นที่มาทดแทนไม้จริงและไม้ปาร์เก้ โดยมีข้อดีกว่าในแง่เวลาการติดตั้งที่รวดเร็วกว่า ผิวหน้าสามารถทนทาน ต่อรอยขูดขีด แรงกดกระแทกได้ดีกว่า และสามารถเลือกสีผิวหน้าให้เป็นลวดลายที่ต้องการได้ ทนความร้อนได้ในระดับหนึ่ง ทนต่อสารเคมี และไม่ติดไฟ พื้นไม่เก็บฝุ่นและเชื้อโรค ทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตมีความง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถปูซ้ำใหม่ได้ทันทีหากต้องการโยกย้าย แต่ข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต คือ ไม่สามารถทำการขัดสีผิวหน้าของพื้นไม้ลามิเนตออกแล้วย้อมสีใหม่เหมือนกับไม้จริง และอายุการใช้งานน้อยเพียง 10-15 ปี คุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นของไม้ลามิเนตมีดังนี้
- 1. เวลาการติดตั้งที่รวดเร็วกว่า
- 2. ผิวหน้าสามารถทนทาน ต่อรอยขูดขีด แรงกดกระแทกได้ดีกว่า
- 3. สามารถเลือกสีผิวหน้าให้เป็นลวดลายที่ต้องการได้ ในขณะที่ไม้ปาร์เก้มีตาไม้จริง ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
- 4. ผิวหน้าไม่ทำให้ลื่นล้ม
- 5. สามารถทนความร้อนได้ในระดับหนึ่ง ทนต่อสารเคมี และไม่ติดไฟ
- 6. พื้นไม่เก็บฝุ่นและเชื้อโรค ต่างจากพรม และกระเบื้อง
- 7. ทำความสะอาดได้ง่าย
- 8. เหมาะกับการใช้งานในร่ม ที่อยู่อาศัย ร้านค้า ห้องประชุม ทั้งนี้ควรเลือกรุ่นความแข็งแรงให้เหมาะสม
- 9. สามารถปูซ้ำใหม่ได้ทันทีหากต้องการโยกย้าย
วิธีการปูพื้นบ้านด้วยไม้ประเภทต่างๆ
การปูพื้นบ้านด้วยไม้ ต้องมีการออกแบบและเตรียมรายละเอียดก่อนการปู เพื่อให้ได้พื้นไม้ที่เรียบสวยงาม เริ่มจากการทำการหาแนวการปู และเศษแผ่นไม่ให้ลงตัวสวยงาม หรือเศษของแผ่นไม้จะต้องเหลือให้เท่าๆ กันทั้ง 2 ด้านของพื้น วิธีการปูพื้นมีหลายวิธี เช่น
- 1.พื้นไม้ปูเข้าลิ้นชนชิด โดยใช้วิธีวางตงไม้เนื้อแข็งขนาด 1 ½” x 1 ½” อบหรือทาน้ำยากันปลวกยึดกับพื้นโครงสร้าง โดยปรับให้ได้ระดับหลังตงเรียบเสมอกัน และเทปูนทรายปรับระดับ ทำผิวขัดมันเสมอผิวตงไม้ แล้วจึงดำเนินการปูพื้นไม้ โดยยึดกับตงที่วางไว้ ตงไม้เนื้อแข็งที่จะใช้จะต้องเป็นไม้ใหม่ หากมีควรใช้ไม้ที่เคยใช้ทำไม้แบบโครงสร้างมาก่อน
- 2.พื้นไม้ปูเว้นร่อง ให้ใช้วิธีวางตงไม้เนื้อแข็งขนาด 2” x 4” อบหรือทาน้ำยากันปลวก ยึดกับลูกปูนหรือฐานปูนที่หนุนลอย เหนือพื้นโครงสร้าง และเทปูนทรายปรับระดับเอียงลาดตามแบบ ทำผิวขัดมัน โดยให้ได้ระดับท้องตงลอยเหนือผิวปูนทรายอย่างน้อย 50 มม. แล้วจึงดำเนินการปูพื้นไม้โดยยึดกับตงที่วางไว้
- 3.พื้นไม้ปาร์เกต์ ให้ใช้วิธีเทปูนทรายปรับระดับ ทำผิวขัดมัน แล้วจึงดำเนินการปูพื้นไม้ด้วยการโพลูรีเทน
- 4.พื้นไม้สำเร็จรูป ให้ใช้วิธีเทปูนทรายปรับระดับ ทำผิวขัดมัน หรือเทปูนทรายปรับระดับ ทำผิวขัดมันและปูทับด้วยไม้อัดยางหนา 10 มม. ชนิดใช้นอกภาย แผ่นไม้อัดที่ปูแต่ละแผ่นให้เว้นระหว่างแผ่นห่าง 5 มม. และยึดแผ่นไม้อัดกับพื้นผิวเดิมด้วยตะปูเป็นระยะ 60 ซม. ทั้งแนวตั้งและแนวนอนปรับระดับให้เรียบเสมอกัน ตามแต่ระบุในแบบ แล้วจึงดำเนินการปูพิ้นไม้ด้วยกาวโพลียูเทน หรือปูด้วยระบบลิ้นล็อกตามมาตรฐานผู้ผลิต